การประท้วงรัสเซียปี2011-2013: ปฏิกิริยาต่อการเลือกตั้งที่ไม่ยุติธรรมและความไม่พอใจต่อผู้นำ

เหตุการณ์การประท้วงในรัสเซียระหว่างปี 2011 ถึง 2013 เป็นปรากฏการณ์ทางการเมืองที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง ซึ่งสะท้อนถึงความไม่พอใจของประชาชนต่อระบบการเมืองและผู้นำในขณะนั้น การประท้วงครั้งนี้จุดประกายโดยการเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อเดือนมีนาคม 2012

Vladimir Putin ผู้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีอีกครั้ง แต่ผลการเลือกตั้งถูกวิจารณ์อย่างหนักว่าไม่โปร่งใสและไม่ยุติธรรม จากการสังเกตการณ์อิสระและองค์กรสิทธิมนุษยชน

การโจมตีจากฝ่ายตรงข้ามต่อ Vladimir Putin เกิดขึ้นในหลายด้าน:

• ประเด็นการโกงเลือกตั้ง: ความไม่โปร่งใสในการดำเนินการเลือกตั้ง และข้อสงสัยเกี่ยวกับความถูกต้องของผลคะแนนนำไปสู่การประท้วงอย่างรุนแรง

• การขาดสิทธิและเสรีภาพ: ประชาชนรัสเซียเรียกร้องสิทธิพลเมืองพื้นฐาน เช่น เสรีภาพในการแสดงออก การรวมกลุ่ม และการวิจารณ์รัฐบาล

• ความไม่เท่าเทียมกันทางเศรษฐกิจ:

ความห่างชั้นทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้นระหว่างชนชั้นสูงกับประชาชนทั่วไป นำมาซึ่งความไม่พอใจและความรู้สึกว่าระบบไม่ได้เป็นธรรมต่อทุกคน

Mikhail Khodorkovsky: ผู้บุกเบิกยุคใหม่ของการต่อต้านอำนาจ

Mikhail Khodorkovsky นักธุรกิจผู้เคยร่ำรวยที่สุดในรัสเซีย ก่อนถูกจำคุกในข้อหาต่างๆ ที่หลายฝ่ายมองว่าเป็นการเมือง และถูกปล่อยตัวเมื่อปี 2013

Khodorkovsky กลับมาสู่เวทีการเมืองอีกครั้งหลังจากได้รับอิสรภาพ โดยกลายเป็นผู้สนับสนุนการประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชนอย่าง vocal

ในช่วงของการประท้วง Mikhail Khodorkovsky ได้ให้สัมภาษณ์แก่สื่อมวลชนต่างประเทศและได้เรียกร้องให้รัฐบาลรัสเซียตอบสนองต่อข้อเรียกร้องของประชาชน

Khodorkovsky ยังได้ตั้งองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไรเพื่อสนับสนุนนักเคลื่อนไหวทางการเมืองและสิทธิมนุษยชนในรัสเซีย

นอกจาก Khodorkovsky แล้ว ตัวอย่างของผู้นำรุ่นใหม่ที่เกิดขึ้นในช่วงเวลานี้ก็มี Alexey Navalny นักเคลื่อนไหวต่อต้านคอร์รัปชั่น

Navalny ได้ใช้วิธีการต่าง ๆ ในการเปิดโปงการทุจริตของข้าราชการ และเรียกร้องให้มีการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง Alexey Navalny ได้ถูกจับกุมและถูกตัดสินจำคุกหลายครั้ง เนื่องจากความเคลื่อนไหวทางการเมือง

ผลกระทบระยะยาวของการประท้วง

การประท้วงในรัสเซียปี 2011-2013 มีผลกระทบต่อการเมืองและสังคมของรัสเซียอย่างมีนัยสำคัญ การประท้วงทำให้เกิดการตระหนักถึงความต้องการการปฏิรูปทางการเมืองและเศรษฐกิจ

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลรัสเซียภายใต้ Vladimir Putin ได้ตอบโต้ต่อการประท้วงด้วยการใช้มาตรการกดขี่และควบคุมประชาชน

ผลกระทบ	รายละเอียด
ความตื่นตัวทางการเมือง	การประท้วงทำให้เกิดการตระหนักถึงความสำคัญของการมีส่วนร่วมทางการเมือง และส่งเสริมการก่อตัวของกลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมืองใหม่
การควบคุมอิสระ	รัฐบาลรัสเซียได้ใช้มาตรการต่างๆ เพื่อควบคุมสื่อมวลชนและกลุ่มพลเมืองที่วิจารณ์รัฐบาล
ความตึงเครียดระหว่างรัสเซียกับชาติตะวันตก	การประท้วงและการตอบโต้ของรัฐบาลรัสเซียทำให้เกิดความตึงเครียดระหว่างรัสเซียกับชาติตะวันตก

การประท้วงในปี 2011-2013 เป็นเครื่องเตือนใจถึงความต้องการอย่างต่อเนื่องสำหรับการปฏิรูปทางการเมืองและเศรษฐกิจ

ในขณะที่รัฐบาลรัสเซียยังคงรักษาอำนาจไว้ การเคลื่อนไหวของประชาชนและความต้องการการเปลี่ยนแปลงยังคงดำรงอยู่ และอาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงในอนาคต